วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ครั้งหนึ่ง...ในสมัยพุทธกาล
เทวดาได้ทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า
                อะไรหนอเป็นมิตรของคนเดินทาง
           อะไรหนอเป็นมิตรในเรือนของตน
           อะไรเป็นมิตรของคนมีธุระเกิดขึ้น
           อะไรเป็นมิตรติดตามไปถึงภพหน้า.
         พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
                พวกเกวียน พวกโคต่างเป็นมิตรของคนเดินทาง
          มารดาเป็นมิตรในเรือนของตน
          สหายเป็นมิตรของคนผู้มีธุระเกิดขึ้นเนือง ๆ
          บุญที่ตนทำเองเป็นมิตรติดตามไปถึงภพหน้า.

คนสมัยก่อนเวลาจะเดินทางไกลต้องไปกันเป็นหมู่ เป็นคณะใหญ่ ถ้าให้เดินทางคนเดียวหรือไปเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ก็จะไม่ไปเพราะตลอดเส้นทางมีแต่ภัยอันตรายรอบด้าน
แต่ถ้าได้เกวียนเป็นยานพาหนะแม้ไปคนเดียวก็กล้าไป เพราะเสียงโคลากเกวียนจะทำให้สัตว์ร้ายกลัว โจรห้าร้อยที่ดักซุ้มอยู่ระหว่างทางก็ไม่กล้าเข้ามาปล้น ทำให้การเดินทางไปถึงที่หมายด้วยความปลอดภัย พวกเกวียนและโคจึงได้ชื่อว่าเป็นมิตรในการเดินทาง

เมื่อโรคที่น่ารังเกียจเกิดขึ้นในร่างกายของเรา
คนทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นพี่น้องของเรา บุตรหรือคู่ชีวิตของเราอาจจะรังเกียจ
แต่ผู้เป็นมารดาจะไม่รังเกียจ และจะมองว่าของที่ไม่สะอาดของบุตรเป็นราวกับว่าของมีค่า
เพราะฉะนั้น มารดาจึงได้ชื่อว่าเป็นทั้งมิตร เป็นทั้งสหายในเรือนของตน

คนที่ขยันจัดงาน หรือมีกิจธุระมาก ย่อมต้องการคนมาช่วยแบ่งเบาภาระ บุคคลใดเข้ามาอาสาช่วยเหลือนำกิจนั้นไปทำให้สำเร็จ บุคคลนั้นชื่อว่าสหาย ชื่อว่ามิตร
เพราะเป็นผู้ที่ทำกิจทั้งหลายให้สำเร็จร่วมกัน. ตรงกันข้ามถ้าบุคคลใดเป็นสหายเฉพาะช่วงดื่มน้ำเมา  บุคคลนั้นไม่ชื่อว่าเป็นมิตร


สุดท้ายของสิ่งมีชีวิตในโลกใบนี้เมื่อเกิดมาแล้วต้องตาย สิ่งของทุกอย่างที่เคยเป็นของเราเมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่ เวลาเราตายสิ่งนั้นก็ไม่ใช่ของเราอีกต่อไป เพื่อนที่เราต้องการที่สุดในยามที่เราต้องเดินทางของจากร่างไปนั้นก็คือบุญกุศล เพราะบุญกุศลที่เราทำไว้ดีแล้ว จะเป็นมิตรแท้ที่ติดตัวเราไปทุกภพทุกชาติ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น