วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559


ครั้งหนึ่ง ขณะที่พระเจ้าปเสนทิโกศลเดินทางมาเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ระหว่างทางพระองค์เห็นพวกนักบวชลัทธิต่างๆ มีชฎิล ๗ คน นิครนถ์ ๗ คน อเจลก ๗ คน
เอกสาฎกนิครนถ์ ๗ คน ปริพาชก ๗ คน ผู้มีขนรักแร้ เล็บ และขนยาว
ถือข้าวของสัมภารพะรุงพะรัง เมื่อพระองค์เห็นดังนั้นก็รีบทำความเคารพพร้อมกับตะโกนบอกไปว่าข้าพเจ้าชื่อปเสนทิโกศลของทำความเคารพท่านทั้งหลาย
แล้วพระองค์ก็เสด็จเดินทางต่อจนมาถึงบุพพารามซึ่งเป็นที่ประทับของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เมื่อพระเจ้าปเสนทิได้พบพระพุทธองค์ก็เล่าเรื่องราวที่ได้เห็นระหว่างพร้อมกับถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า
"พระพุทธเจ้าข้าพวกนักบวชเหล่านั้น คงเป็นพระอรหันต์ หรือท่านผู้บรรลุคุณวิเศษอย่างแน่นอน"
"พระพุทธองค์ตรัสว่า ดูก่อนมหาบพิตร พระองค์เป็นคฤหัสถ์บริโภคกาม ครอบครองเรือน บรรทมเบียดพระโอรสและพระชายา ทาจุรณจันทน์อันมาแต่แคว้นกาสี ทรงมาลาของหอมและเครื่องลูบไล้ ยินดีเงินและทองอยู่ ยากที่จะรู้ว่าคนพวกนี้เป็นพระอรหันต์ หรือคนพวกนี้ได้บรรลุคุณวิเศษ"
(พูดง่ายก็ว่ายังชอบเสพกามอยู่ยากที่จะมองคุณธรรมคุณวิเศษของคนอื่นออก) แล้วพระพุทธองค์ได้ให้หลักในการดูคุณธรรมของคนไว้ว่า
ศีลพึงรู้ได้ด้วยการอยู่ร่วมกัน
ความสะอาดพึงรู้ได้ด้วยการงาน
กำลังใจพึงรู้ได้ในคราวมีอันตราย
ปัญญาพึงรู้ได้ด้วยการสนทนา

ส.ส. ชฏิลสูตร ๒๔/๓๕๖/๔๕๓ (มมก.)