วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559



วัฒนธรรมตะวันตกไม่มีสอนว่า เวลาผู้หญิงแต่งงานไปอยู่กินกับสามีแล้วต้องทำตัวอย่างไร อาจเป็นเพราะเมื่ออยู่กันฉันสามีภรรยาไปสักระยะหนึ่งแล้วรู้สึกว่าเข้ากันไม่ได้ ก็หย่าร้างกันไปไม่ใช่เรื่องซีเรียสอะไร ขณะที่วัฒนธรรมในสังคมไทยยุคก่อนการหย่าร้างกันเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ยอมรับไม่ได้ โดยเฉพาะพ่อแม่ของฝ่ายหญิง ด้วยเหตุนี้พ่อแม่จึงต้องสอนลูกสาวเกี่ยวกับข้อประพฤติปฏิบัติสำหรับผู้หญิงเมื่อต้องออกจากเรือนไปอยู่สกุลของฝ่ายชาย
ส่วนว่าข้อปฏิบัติที่บรรพบุรุษเราสอนลูกสาวมาจากไหนนั้น คงหนีไม่พ้นหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในอุคคหสูตรมีเนื้อความดังนี้

ครั้งหนึ่ง ท่านอุคคหเศรษฐีทูลอาราธนาให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนหลักปฏิบัติสำหรับลูกสาวของตน ที่กำลังจะออกเรือนไปอยู่สกุลของสามี พระผู้มีพระภาคจึงตรัสสอนลูกสาวของเศรษฐีว่า (ขอยกเอาสำนวนในพระสูตรมาเลยนะครับ)
ดูกรกุมารี   เพราะเหตุนั้นแหละเธอพึงศึกษาและปฏิบัติอย่างนี้ว่า มารดาบิดาของสามีที่เป็นผู้ปรารถนาประโยชน์หวังความเกื้อกูลอนุเคราะห์ด้วยความเอ็นดู เราจักตื่นก่อนท่านนอนทีหลังท่านคอยรับใช้ท่าน ประพฤติเป็นที่พอใจท่านพูดคำเป็นที่รักต่อท่าน  เธอพึงศึกษาและปฏิบัติอย่างนี้แล ฯ

เพราะเหตุนั้นแหละเธอพึงศึกษาและปฏิบัติอย่างนี้ว่า ชนเหล่าใดเป็นที่เคารพ
ของสามี คือ มารดา บิดาหรือสมณพราหมณ์ เราจักสักการะ เคารพ นับถือบูชา
เมื่อท่านมาถึงที่ก็จักต้อนรับด้วยที่นั่งหรือน้ำ ดูกรกุมารีเธอพึงศึกษาและปฏิบัติอย่างนี้แล ฯ

เพราะเหตุนั้นแหละ เธอพึงศึกษาและปฏิบัติอย่างนี้ว่า การงานภายในบ้านของสามี
คือ การทำขนสัตว์ หรือการทำผ้า เราทั้งหลายจักเป็นผู้ขยันไม่เกียจคร้านในการงานนั้น ๆ จักประกอบด้วยปัญญาเครื่องพิจารณาอันเป็นอุบายในการงานนั้น ๆ อาจทำ อาจจัด ดูกรกุมารีเธอพึงศึกษาและปฏิบัติอย่างนี้แล ฯ

เพราะเหตุนั้นแหละ เธอพึงศึกษาและปฏิบัติอย่างนี้ว่า เราจักรู้การงานที่อันโตชนภายในบ้านของสามี คือ ทาส คนใช้ หรือกรรมกรทำแล้วว่าทำแล้ว ที่ยังไม่ได้ทำ ว่ายังไม่ได้ทำ จักรู้คนป่วยไข้ว่ามีกำลังหรือไม่มีกำลัง และจักแบ่งของเคี้ยวของบริโภคให้ตามเหตุที่ควร ดูกรกุมารีเธอพึงศึกษาและปฏิบัติอย่างนี้แล ฯ

เพราะเหตุนั้นแหละ เธอพึงศึกษาและปฏิบัติอย่างนี้ว่า เราจักยังทรัพย์ ข้าวเปลือก เงิน หรือทองที่สามีหามาได้ให้คงอยู่ ด้วยการรักษา คุ้มครอง จักไม่เป็นนักเลงการพนัน ไม่เป็นขโมยไม่เป็นนักดื่ม ไม่ผลาญทรัพย์ให้พินาศ ดูกรกุมารีเธอพึงศึกษาและปฏิบัติอย่างนี้แล ฯ
สุภาพสตรีผู้มีปรีชา ย่อมไม่ดูหมิ่นสามีผู้หมั่นเพียร ขวนขวายอยู่เป็นนิตย์
เลี้ยงตนอยู่ทุกเมื่อ ให้ความปรารถนาทั้งปวง ไม่ทำสามีให้ขุ่นเคือง
ด้วยการประพฤติแสดงความหึงหวงสามี และย่อมบูชาผู้ที่เคารพทั้งปวงของสามี
เป็นผู้ขยัน ไม่เกียจคร้าน สงเคราะห์คนข้างเคียงของสามี ประพฤติเป็นที่พอใจของสามีรักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้ นารีใดย่อมประพฤติตามความพอใจของสามีอย่างนี้
นารีนั้นย่อมเข้าถึงความเป็นเทวดาแน่นอน ฯ

สรุปก็คือ เมื่อต้องออกเรือนไปอยู่ในตระกูลของสามี ก็ต้องรู้จักบุคคลที่สามีเคารพรัก ซึ่งได้แก่ มารดา บิดา ครูบาอาจารย์ เพื่อนฝูง แม้กระทั้งลูกน้องของสามี เราต้องเคารพ นับถือบูชาบุคคลเหล่านี้ด้วย เมื่อท่านเหล่านี้มาที่บ้าน ก็ต้องรู้จักวิธีดูแลต้อนรับปฏิสันถารตามสมควรแก่ฐานะ ส่วนเรื่องการงานต่าง ๆ ภายในบ้านรวมทั้งทรัพย์สินเงินทองที่สามีหามาได้ ก็ต้องบริหารจัดการให้เป็น หญิงใดทำได้เช่นนี้ ถ้าสามียังต้องการจะหย่าร้างหรือแอบไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยอยู่ แสดงว่าสามีคนนี้ใช้ไม่ได้ แล้วเขาจะถูกพ่อแม่ พี่น้องหรือคนอื่น ๆ ที่เราคอยดูแลนั้นแหละรุมตำหนิโดยที่เราไม่ต้องออกปากบ่นสักคำ




0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น