วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
ในสมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดำเนินจากสถานที่บรรลุธรรม
เพื่อโปรดปัจจวัคคีย์ที่
ป่าอิสิปตนมฤคทายาวัน ระหว่างทางอุปกาชีวกผู้เป็นนักบวชนอกพระพุทธศาสนา
เห็นพระพุทธองค์นั่งอยู่ใต้ต้นไม้แห่งหนึ่ง มีผิวพรรณผ่องใส่เลยเข้ามาถามว่า
ป่าอิสิปตนมฤคทายาวัน ระหว่างทางอุปกาชีวกผู้เป็นนักบวชนอกพระพุทธศาสนา
เห็นพระพุทธองค์นั่งอยู่ใต้ต้นไม้แห่งหนึ่ง มีผิวพรรณผ่องใส่เลยเข้ามาถามว่า
"ท่านบวชกับใคร
ใครเป็นศาสดาของท่าน ท่านชอบหลักธรรมข้อไหน ? "
พระพุทธองค์ตอบด้วยความองอาจ ประดุจพญาราชสีห์บันลือสีหนาทว่า
"เราเป็นผู้ครอบงำธรรมทั้งปวง
รู้ธรรมทั้งปวง...
พ้นแล้วเพราะความสิ้นไปแห่งตัณหา
เราตรัสรู้ยิ่งเองแล้ว จะพึง
อ้างใครเล่า อาจารย์ของเราไม่มี คนเช่นเรา
ก็ไม่มี บุคคลเสมอเหมือนเราก็ไม่มี
ในโลกกับ
ทั้งเทวโลก เพราะเราเป็นพระอรหันต์ในโลก
เราเป็นศาสดา หาศาสดาอื่นยิ่งกว่ามิได้ เราผู้เดียว
เป็นพระสัมมาสัมพุทธะ "
เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว อุปกาชีวกทูลว่า เป็นให้พอเถิด
ท่านควรเป็นผู้ชนะหาที่สุดมิได้
ดังนี้แล้วสั่นศีรษะ จากนั้นก็เดินหลีกไป
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
คนไม่มีบุญแม้เจอพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่ยากฟังธรรม
ศาสนาหรือความเชื่อต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาในโลกนี้ ลองพิจารณาดูแล้วไม่เป็นเหตุเป็นผลเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ก็ยังมีคนเคารพนับถือกันอย่างมากมาย
นักบวชในศาสนานั้น ๆ บางทีก็เจอคำสอนที่ดีกว่าคำสอนเดินของตน
แต่กลับไม่ยอมรับหรือเปลี่ยนความเชื่อ
เพราะความถือตัว และสำคัญว่าคำสอนของเราก็แน่ เช่น ชฏิล ๓ พี่น้อง
ทั้งสามท่านนี้ก่อนที่จะมาเป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคตรถือตัวเลยทีเดียว
แต่เนื่ืองจากได้ทำบุญเก่ามาดี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงหาวิธีปราบความถือตัว
ด้วยการแสดงฤทธิ์ต่าง ๆ ถึง ๓,๕๐๐ อย่าง แต่แม้จะแสดงมากขนาดนี้
คนไม่มีบุญแม้เจอพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่ยากฟังธรรม
ศาสนาหรือความเชื่อต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาในโลกนี้ ลองพิจารณาดูแล้วไม่เป็นเหตุเป็นผลเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ก็ยังมีคนเคารพนับถือกันอย่างมากมาย
นักบวชในศาสนานั้น ๆ บางทีก็เจอคำสอนที่ดีกว่าคำสอนเดินของตน
แต่กลับไม่ยอมรับหรือเปลี่ยนความเชื่อ
เพราะความถือตัว และสำคัญว่าคำสอนของเราก็แน่ เช่น ชฏิล ๓ พี่น้อง
ทั้งสามท่านนี้ก่อนที่จะมาเป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคตรถือตัวเลยทีเดียว
แต่เนื่ืองจากได้ทำบุญเก่ามาดี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงหาวิธีปราบความถือตัว
ด้วยการแสดงฤทธิ์ต่าง ๆ ถึง ๓,๕๐๐ อย่าง แต่แม้จะแสดงมากขนาดนี้
ชฎิลอุรุเวลกัสสปผู้เป็นพี่ใหญ่ก็ยังบอกว่า
"พระพุทธเจ้ามีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมากแต่ก็ไม่เป็นพระอรหันต์เหมือนเราอย่างเรา"
พระพุทธองค์เลยพูดแทงใจดำให้ได้คิดว่า
"อุรุเวลกัสปะท่านไม่ได้เป็นพระอรหันต์
แม้วิธีการปฏิบัติเพื่อให้เป็นพระอรหันต์ท่านก็ไม่รู้ ฯลฯ "
เมื่อพูดดังนี้ทำให้ได้คิด แล้วก็คิดได้ทิ้งความอวดดื้อถือดี
ก้มกราบขอบวชแทบเท้าของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในที่สุด
"พระพุทธเจ้ามีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมากแต่ก็ไม่เป็นพระอรหันต์เหมือนเราอย่างเรา"
พระพุทธองค์เลยพูดแทงใจดำให้ได้คิดว่า
"อุรุเวลกัสปะท่านไม่ได้เป็นพระอรหันต์
แม้วิธีการปฏิบัติเพื่อให้เป็นพระอรหันต์ท่านก็ไม่รู้ ฯลฯ "
เมื่อพูดดังนี้ทำให้ได้คิด แล้วก็คิดได้ทิ้งความอวดดื้อถือดี
ก้มกราบขอบวชแทบเท้าของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในที่สุด
สรุปแล้ว สายบุญเก่าที่เคยทำมากับพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องสำคัญ
ปัจจุบันแม้เกิดมาไม่ได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แต่ก็ได้พบพระพุทธศาสนาทำให้เราได้ฟังธรรมบำเพ็ญบุญ
ปัจจุบันแม้เกิดมาไม่ได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แต่ก็ได้พบพระพุทธศาสนาทำให้เราได้ฟังธรรมบำเพ็ญบุญ
วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
On 01:06 by EForL No comments
๑.
ภรรยาสินไถ่ คือ หญิงที่ชายเอาเงินซื้อมาอยู่ร่วมกัน
๒.
ภรรยาที่อยู่ด้วยความสมัครใจ คือ หญิงที่เป็นคู่รักตกลงใจมีอยู่กินร่วมกัน
๓. ภรรยาที่อยู่เพราะสมบัติ
คือ หญิงที่ย่อมมาอยู่ด้วยเพราะชายยกสมบัติให้
๔.
ภรรยาที่อยู่เพราะผ้า คือ หญิงที่ย่อมมาอยู่ด้วยเพราะชายมอบผ้าให้
(เข้าใจว่าสมัยก่อนผ้าหายาก)
๕.
ภรรยาที่เข้าพิธีสมรส คือ หญิงที่ได้เข้าพิธีแต่งงานอย่างถูกต้องตามธรรมเนียม
๖.
ภรรยาที่ถูกปลงเทริด คือ หญิงที่ประเพณีให้สวมใส่เครื่องประดับอะไรสักอย่างหนึ่ง
เมื่อถูกชายใดถอดออกก็ต้องไปอยู่กับคนนั้น
๗.
ภรรยาทาส คือ หญิงที่เป็นทั้งคนรับใช้และเป็นเมีย
๘.
ภรรยาที่เป็นเหมือนแม่ คือ หญิงที่ค่อยดูแลสามีเสมือนแม่ดูแลบุตร
๙. ภรรยาที่เป็นเหมือนเพื่อน
คือ หญิงที่เป็นทั้งเพื่อนคุย เพื่อนกิน เพื่อนเล่น พร้อมกับเป็นเมียด้วย
๑๐.
ภรรยาชั่วคราว คือ หญิงที่อยู่กันกับชายเป็นครั้งคราว
วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
On 02:25 by EForL No comments
“สมัยใด ที่ผู้ปกครองประเทศไม่ตั้งอยู่ในธรรม สมัยนั้น พวกข้าราชการก็ไม่ตั้งอยู่ในธรรม
แม้พวกนักวิชาการและผู้ประกอบการก็ไม่ตั้งอยู่ในธรรม แม้ที่สุดประชาชนก็ไม่ตั้งอยู่ในธรรม
เมื่อเป็นดังนี้ พระจันทร์และพระอาทิตย์ย่อมหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้คืนและวันหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ
เดือนหนึ่งและกึ่งเดือนก็หมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ
เมื่อเดือนหนึ่งและกึ่งเดือนหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ
ฤดูและปีก็ย่อมหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ เมื่อฤดูและปีหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ
ลมย่อมพัดไม่สม่ำเสมอ เมื่อลมพัดไม่สม่ำเสมอ ลมก็เดินผิดทางไม่สม่ำเสมอย่อมพัดเวียนไป
เมื่อลมเดินผิดทางไม่สม่ำเสมอพัดเวียนไป เทวดาย่อมกำเริบ
เมื่อเทวดากำเริบฝนย่อมไม่ตกต้องตามฤดูกาล เมื่อฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล
ข้าวกล้าทั้งหลายก็สุกไม่เสมอกัน มนุษย์ผู้บริโภคข้าวที่สุกไม่เสมอกัน
ย่อมเป็นผู้มีอายุน้อย มีผิวพรรณเศร้าหมองมีกำลังน้อย มีอาพาธมาก "
ธัมมิกสูตร
มมก. เล่ม 35 หน้า 223
จากพระสูตรนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า
สภาพแวดล้อมต่างๆ เป็นผลมาจากศีลธรรมของมวลมนุษย์นั่นเอง
ถ้ายุคสมัยใดมนุษย์มีศีลธรรมสูง
สภาวะแวดล้อมต่างๆก็จะเอื้อต่อการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข
แต่ถ้ายุคใดที่ศีลธรรมเสื่อมถอย ธรรมชาติจะแปรปรวน ภัยพิบัติทางธรรมชาติก็จะมีมาก
พฤติกรรมของมนุษย์จึงเป็นตัวกำหนดความเป็นไปของสภาพดินฟ้าอากาศ
และเมื่อสภาพดินฟ้าอากาศเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงไปในทางเสื่อม
ก็จะส่งผลย้อนกลับมาให้โทษแก่มวลมนุษย์อีกที
ภาวะโลกร้อนเป็นผลจากความโลภของมนุษย์ที่มุ่งสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของธรรมชาติ
มุ่งกอบโกยทรัพยากรต่างๆเข้าสู่ตนเอง สู่กลุ่มของตน สู่บริษัทของตน
สู่ประเทศของตนโดยไม่มีความยับยั้งชั่งใจ
การมุ่งแก้ไขที่ปลายเหตุไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว
การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่สามารถแก้ไขหรือลดทอนความรุนแรงของภัยพิบัติได้เลย
เพราะการแก้ปัญหาให้ได้ผลต้องแก้ที่ต้นเหตุที่แท้จริงคือขจัดความโลภที่
เกินขอบเขตของมนุษย์
ดังนั้น การฟื้นฟูศีลธรรมโลกจึงเป็นภาวะเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ
เพราะหากไม่ฟื้นฟูศีลธรรมซึ่งเป็นการแก้ที่ต้นเหตุ ก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้เลย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
Search
สนับสนุนผู้เขียน
บทความยอดนิยม
-
ถ้ามนุษย์ทุกคนในโลกรู้ว่าผลแห่ง "ทาน" ที่ตนให้จะส่งผลมากมายขนาดไหน ความ "ตระหนี่" จะไม่เกิดขึ้นในใจของใครๆ เลยแม้แต่น...
-
ศาสนาทุกศาสนา แต่เดิมล้วนมุ้งสอนให้มวลมนุษยชาติอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ปราศจากการประทุษร้ายซึ่งกันและกัน และสอนให้รู้ถึงเป้าหมายที่แท้จริงขอ...
-
เวลาขึ้นบ้านใหม่ หรือมีงานมงคลพิธีต่าง ๆ คนไทยมักจะนิมนต์พระมาสวดเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนกลับหลวงปู่ หลวงพ่อก็มักจะเขียนค...
-
ในกาลนานมาแล้ว เศรษฐีผู้หนึ่งมีภรรยาเป็นหมัน ต่อมาเขาได้นำหญิงอีกคนหนึ่งมาเป็นภรรยา เหตุการณ์โกลาหลเกิดขึ้นเมื่อภรรยาน้อยตั้งท้อง วัน...
-
สรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ล้วนมีวิวัฒนาการ การเปลี่ยนแปลงเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ให้สามารถอยู่ได้ยาวนานมากที่สุด พระพุท...
-
การสังคายนาครั้งที่ 3 การสังคายนาครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ พ . ศ . 236 มีปรากฏในอรรถกถา มหาวิภังค์ (วิ.มหา. อ. (ไทย) 1/ 93-11...
-
ผู้ที่ขัดขวางการให้ทานของผู้อื่นได้ชื่อว่าทำความเสื่อม ให้เกิดขึ้นแก่บุคคลถึง 3 คน ได้แก่ 1) ทำความเสื่อมให้เกิดขึ้นแก่ผู้ตั้งใจ...
-
1. เหตุใดคุณมีเสื้อผ้าแพรพรรณอันงดงามสวมใส่มากมาย เพราะชาติก่อนคุณเคยถวายจีวรแด่พระสงฆ์ 2. เหตุใดชาตินี้คุณมีอาหารดีดีรับประทานอย...
-
การสังคายนาครั้งที่ 1 การสังคายนาในครั้งพุทธกาลมีปรากฏในสังคีติสูตร (ที.ปา. (ไทย) 10/ 296-349/ 247-366 ) กล่าวไว้ว่า พระสารีบุตรได...
-
ชาวพุทธเถรวาท คือ ชาวพุทธที่ยึดมั่นในวาทะของพระเถระ ซึ่งก็คือพระอรหันต์ 500 รูป ที่ประชุมกันทำสังคายนาครั้งที่ 1 หลังพุทธปรินิพพาน 3 เดือ...
บทความทั้งหมด
-
►
2016
(36)
- ► กุมภาพันธ์ (1)
สถิติผู้เข้าชม
ติดตามผู้เขียน
ฟอร์มรายชื่อติดต่อ
ติดตามที่ Facebook
Tags
ขับเคลื่อนโดย Blogger.