วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
On 02:25 by EForL No comments
“สมัยใด ที่ผู้ปกครองประเทศไม่ตั้งอยู่ในธรรม สมัยนั้น พวกข้าราชการก็ไม่ตั้งอยู่ในธรรม
แม้พวกนักวิชาการและผู้ประกอบการก็ไม่ตั้งอยู่ในธรรม แม้ที่สุดประชาชนก็ไม่ตั้งอยู่ในธรรม
เมื่อเป็นดังนี้ พระจันทร์และพระอาทิตย์ย่อมหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้คืนและวันหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ
เดือนหนึ่งและกึ่งเดือนก็หมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ
เมื่อเดือนหนึ่งและกึ่งเดือนหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ
ฤดูและปีก็ย่อมหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ เมื่อฤดูและปีหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ
ลมย่อมพัดไม่สม่ำเสมอ เมื่อลมพัดไม่สม่ำเสมอ ลมก็เดินผิดทางไม่สม่ำเสมอย่อมพัดเวียนไป
เมื่อลมเดินผิดทางไม่สม่ำเสมอพัดเวียนไป เทวดาย่อมกำเริบ
เมื่อเทวดากำเริบฝนย่อมไม่ตกต้องตามฤดูกาล เมื่อฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล
ข้าวกล้าทั้งหลายก็สุกไม่เสมอกัน มนุษย์ผู้บริโภคข้าวที่สุกไม่เสมอกัน
ย่อมเป็นผู้มีอายุน้อย มีผิวพรรณเศร้าหมองมีกำลังน้อย มีอาพาธมาก "
ธัมมิกสูตร
มมก. เล่ม 35 หน้า 223
จากพระสูตรนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า
สภาพแวดล้อมต่างๆ เป็นผลมาจากศีลธรรมของมวลมนุษย์นั่นเอง
ถ้ายุคสมัยใดมนุษย์มีศีลธรรมสูง
สภาวะแวดล้อมต่างๆก็จะเอื้อต่อการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข
แต่ถ้ายุคใดที่ศีลธรรมเสื่อมถอย ธรรมชาติจะแปรปรวน ภัยพิบัติทางธรรมชาติก็จะมีมาก
พฤติกรรมของมนุษย์จึงเป็นตัวกำหนดความเป็นไปของสภาพดินฟ้าอากาศ
และเมื่อสภาพดินฟ้าอากาศเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงไปในทางเสื่อม
ก็จะส่งผลย้อนกลับมาให้โทษแก่มวลมนุษย์อีกที
ภาวะโลกร้อนเป็นผลจากความโลภของมนุษย์ที่มุ่งสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของธรรมชาติ
มุ่งกอบโกยทรัพยากรต่างๆเข้าสู่ตนเอง สู่กลุ่มของตน สู่บริษัทของตน
สู่ประเทศของตนโดยไม่มีความยับยั้งชั่งใจ
การมุ่งแก้ไขที่ปลายเหตุไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว
การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่สามารถแก้ไขหรือลดทอนความรุนแรงของภัยพิบัติได้เลย
เพราะการแก้ปัญหาให้ได้ผลต้องแก้ที่ต้นเหตุที่แท้จริงคือขจัดความโลภที่
เกินขอบเขตของมนุษย์
ดังนั้น การฟื้นฟูศีลธรรมโลกจึงเป็นภาวะเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ
เพราะหากไม่ฟื้นฟูศีลธรรมซึ่งเป็นการแก้ที่ต้นเหตุ ก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้เลย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
Search
สนับสนุนผู้เขียน
บทความยอดนิยม
-
ถ้ามนุษย์ทุกคนในโลกรู้ว่าผลแห่ง "ทาน" ที่ตนให้จะส่งผลมากมายขนาดไหน ความ "ตระหนี่" จะไม่เกิดขึ้นในใจของใครๆ เลยแม้แต่น...
-
ศาสนาทุกศาสนา แต่เดิมล้วนมุ้งสอนให้มวลมนุษยชาติอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ปราศจากการประทุษร้ายซึ่งกันและกัน และสอนให้รู้ถึงเป้าหมายที่แท้จริงขอ...
-
เวลาขึ้นบ้านใหม่ หรือมีงานมงคลพิธีต่าง ๆ คนไทยมักจะนิมนต์พระมาสวดเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนกลับหลวงปู่ หลวงพ่อก็มักจะเขียนค...
-
ในกาลนานมาแล้ว เศรษฐีผู้หนึ่งมีภรรยาเป็นหมัน ต่อมาเขาได้นำหญิงอีกคนหนึ่งมาเป็นภรรยา เหตุการณ์โกลาหลเกิดขึ้นเมื่อภรรยาน้อยตั้งท้อง วัน...
-
สรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ล้วนมีวิวัฒนาการ การเปลี่ยนแปลงเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ให้สามารถอยู่ได้ยาวนานมากที่สุด พระพุท...
-
การสังคายนาครั้งที่ 3 การสังคายนาครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ พ . ศ . 236 มีปรากฏในอรรถกถา มหาวิภังค์ (วิ.มหา. อ. (ไทย) 1/ 93-11...
-
ผู้ที่ขัดขวางการให้ทานของผู้อื่นได้ชื่อว่าทำความเสื่อม ให้เกิดขึ้นแก่บุคคลถึง 3 คน ได้แก่ 1) ทำความเสื่อมให้เกิดขึ้นแก่ผู้ตั้งใจ...
-
1. เหตุใดคุณมีเสื้อผ้าแพรพรรณอันงดงามสวมใส่มากมาย เพราะชาติก่อนคุณเคยถวายจีวรแด่พระสงฆ์ 2. เหตุใดชาตินี้คุณมีอาหารดีดีรับประทานอย...
-
การสังคายนาครั้งที่ 1 การสังคายนาในครั้งพุทธกาลมีปรากฏในสังคีติสูตร (ที.ปา. (ไทย) 10/ 296-349/ 247-366 ) กล่าวไว้ว่า พระสารีบุตรได...
-
ชาวพุทธเถรวาท คือ ชาวพุทธที่ยึดมั่นในวาทะของพระเถระ ซึ่งก็คือพระอรหันต์ 500 รูป ที่ประชุมกันทำสังคายนาครั้งที่ 1 หลังพุทธปรินิพพาน 3 เดือ...
บทความทั้งหมด
-
►
2016
(36)
- ► กุมภาพันธ์ (1)
สถิติผู้เข้าชม
ติดตามผู้เขียน
ฟอร์มรายชื่อติดต่อ
ติดตามที่ Facebook
Tags
ขับเคลื่อนโดย Blogger.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น