วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2558

On 04:16 by EForL   No comments


กาลามสูตร คือ พระสูตรที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชนเผ่ากาละมะ ไม่ให้เชื่องมงาย ไร้เหตุผล มีหลักอยู่ ๑๐ ข้อ ได้แก่
๑) อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา เช่น "เขาว่าพระรูปโน้นเป็นอย่างนั้น" "ได้ยินมาว่าคนนั้นเป็นอย่างนี้"
๒) อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบ ๆ กันมา เช่น "ใคร ๆ เขาก็ว่ากินผักกะหล่ำมากแล้วจะทำให้เป็นหมัน"  "โบราณว่า...."
๓) อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ เช่น “ข่าวว่านายนั้นเป็นคนอย่างนี้”
๔) อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำรา หรือคัมภีร์ เช่น “ตำราว่าอย่างนั้น ต้องออกมาเป็นอย่างเท่านั้น”
๕) อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรกะ เช่น ชาย ๒ คนเข้าไปในหลุมขยะ พอออกจากหลุมขยะต้องมีคราบเปื้อนทั้งสองคน ซึ่งถ้าพิจารณาดูแล้วมันเป็นตรรกะดีก็เลยเชื่อ
๖) อย่าปลงใจเชื่อ เพราะอนุมาน เช่น การคาดการณ์ตามประวัติศาสตร์ ตามสถิติ ความน่าจะเป็น ซึ่งอาจจะผิดก็ได้
๗) อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล เช่น เห็นคนไข้เป็นแบบที่เคยรักษามาก่อน จึงคิดว่าคนนี้ต้องเป็นโรคแบบนั้น เลยไม่ตรวจรักษาจ่ายยาเลย
๘) อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว เช่น 1+1 ต้องเท่ากับ 2 เท่านั้น
๙) อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ โดยเทียบกับความคิดเห็นเดิมของตน
๑๐) อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา


แต่ให้เชื่อเพราะเราได้พิสูจน์ด้วยตนว่าธรรม (ความรู้) เหล่านั้น เป็นอกุศล เป็นกุศล มีโทษ ไม่มีโทษ     แล้วจึงควรละหรือถือปฏิบัติตามนั้น เรียกว่าเป็นหลักธรรมาธิปไตย เอาธรรมะ เอาความถูกต้องเป็นใหญ่และหลักการนี้เองที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้ปกครองสงฆ์ในสมัยพุทธกาล



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น